คุณสมบัติท่อ PPR

ท่อ PPR (ย่อจาก Polypropylene)

คือท่อสำหรับงานระบบท่อน้ำประปา ท่อน้ำร้อน เป็นท่อที่ถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยมาตรฐานใหม่ มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากท่อ PVC และเป็นท่อที่ประเทศชั้นนำทั่วโลกเลือกใช้ ท่อ PPR ถูกคิดค้นโดยชาวเยอรมัน โดยพัฒนาจากเม็ดพลาสติก PPR (Polypropylene) โพลีโพรไพลีน ประกอบขึ้นจากวัสดุที่มีคุณสมบัติ ทำให้ได้ท่อ PPR ที่มีคุณสมบัติทางเคมีและกายภาพที่ดี เป็นท่อที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพการอุปโภค บริโภค พร้อมทั้งยังมีคุณสมบัติที่ไร้กลิ่น ไร้รสชาติ ทนทานต่อสารเคมี เหมาะสำหรับใช้งานในภาคอุตสาหกรรม อาคารสูง และในครัวเรือน

ท่อ PPR  (Polypropylene) มี 2 แบบ

คือ PN10 และ PN20 โดยค่า PN จะเป็นตัวบอกว่าท่อสามารถรับแรงดันน้ำได้เท่าไร
เช่น ท่อ PPR PN10 = รับความดันได้ 10 บาร์ และเหมาะกับน้ำอุ่นน้ำเย็น รองรับอุณหภูมิได้ถึง 60 องศาฯ
ท่อ PPR PN20 = รับความดันได้ 20 บาร์ และเหมาะกับน้ำร้อน รองรับอุณหภูมิได้ถึง 95 องศาฯ

คุณสมบัติของท่อ PPR  (Polypropylene)

การติดตั้งท่อ PPR

การติดตั้งท่อ PPR สำคัญที่วิธีการติดตั้งหรือเดินท่อ PPR ท่อและข้อต่อต้องประสานเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีวันรั่ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือการให้ความร้อนในการหลอมเหลว เพราะขณะเดินท่อ PPR ติดตั้งท่อและข้อต่อ เครื่องเชื่อม PPR ควรมีความร้อนสม่ำเสมอ ณ ที่อุณหภูมิ 250 -260 องศาฯ ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่ทำให้การติดตั้งหรือเดินท่อ PPR เกิดการหลอมเหลวประสานเป็นเนื้อเดียวกันได้ดี ไม่เกิดการรั่วซึม ดังนั้นการติดตั้งหรือเดินท่อ PPR จึงควรใช้เครื่องเชื่อม PPR ที่มีคุณภาพ

สำหรับปั๊มน้ำชนิด Package Booster Pump ทางคาลปีด้ามีการเดินท่อเฮดเดอร์ทางดูดและทางส่ง ซึ่งเป็นท่อชนิด PPR หมดกังวลเรื่องการเป็นสนิมหรือรั่วซึม และมีอายุการใช้งานยาวนาน คาลปีด้าเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบปั๊มน้ำสำหรับบ้านพักอาศัย  อาคารสูง และปั๊มน้ำระบบอื่นๆ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลการใช้งานได้ที่ บริษัท คาลปีด้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-275-0027 หรือ
ทางช่องทางออนไลน์ Line Official: @calpeda.thailand Facebook: Calpeda Thailand

ปั๊มน้ำสำหรับอาคารสูง

เรื่องราวปั๊มน้ำที่น่ารู้

Contact
f  Share